"อนุทิน" เปิดโครงการตรวจสุขภาพ "พระสงฆ์" ที่เอื้อธรรมวินัย จ.บุรีรัมย์ จัดตั้งกองทุนอุปัฏฐากทุกเขตสุขภาพดูแลค่ารักษา

          รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการถวายการตรวจสุขภาพพระสงฆ์ที่เอื้อต่อพระธรรมวินัย เขตสุขภาพที่ 9 จ.บุรีรัมย์ ช่วยพระสงฆ์เข้าถึงบริการตรวจสุขภาพมากขึ้น ลดเสี่ยงอาพาธจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หลังพบแนวโน้มสูงขึ้น หากเจ็บป่วยรักษาทันที ช่วยลดความรุนแรงของโรค สร้างความตระหนักพระสงฆ์ดูแลสุขภาพตนเอง ได้รับการตรวจคัดกรองประจำปี พร้อมตั้งกองทุนอุปัฏฐากทุกเขตสุขภาพดูแลค่ารักษาพยาบาล แนะประชาชนร่วมสร้างสุขภาพที่ดีพระสงฆ์ ด้วยการถวายอาหารลดหวานมันเค็ม

          วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2563) ที่วัดกลาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดงาน “โครงการถวายการตรวจสุขภาพพระสงฆ์ที่เอื้อต่อพระธรรมวินัย เขตสุขภาพที่ 9 จังหวัดบุรีรัมย์”

          นายอนุทินกล่าวว่า พระสงฆ์มีแนวโน้มอาพาธด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อมูลกรมการแพทย์พบว่า โรคที่พบบ่อยในพระสงฆ์คือโรคไขมันในเลือดสูง  โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน โรคไตวายเรื้อรัง และข้อเข่าเสื่อม ซึ่งโรคเหล่านี้หากได้รับการคัดกรองพบมีความเสี่ยงตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยป้องกัน ลดการอาพาธ หรือหากพบการเจ็บป่วยก็รักษาได้ทันที เพื่อลดความรุนแรงของโรค ลดภาวะเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากพระสงฆ์เป็นกลุ่มที่เข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขได้ยาก มีหลักประกันสุขภาพเพียง 61.7 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ายังไม่ครอบคลุม ทำให้มีการคิดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลกับพระสงฆ์ และตามพระธรรมวินัย พระสงฆ์จะไม่ร้องขอการตรวจสุขภาพ ยกเว้นการมารับการรักษาเมื่ออาพาธ โดยข้อมูลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพบว่า พระสงฆ์และสามเณรได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพเพียงร้อยละ 34 เท่านั้น

          นายอนุทินกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ จึงสร้างภาคีเครือข่ายและสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนอุปัฏฐากพระสงฆ์อาพาธทั่วประเทศ ซึ่งกองทุนดังกล่าว กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลสงฆ์เป็นผู้ดูแล และกิจกรรมครั้งนี้ ได้มีการมอบเงินให้พระภิกษุสงฆ์อาพาธทั่วประเทศ โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพเป็นผู้แทนรับมอบ แต่ละเขตสุขภาพจะได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนในจำนวนที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับจำนวนพระสงฆ์อาพาธในแต่ละเขต นอกจากนี้ ได้ให้กรมการแพทย์จัดโครงการถวายการตรวจสุขภาพพระสงฆ์ที่เอื้อต่อพระธรรมวินัย เนื่องจากไม่ได้เป็นการร้องขอ เพื่อให้พระสงฆ์ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพตนเอง ได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพประจำปี พร้อมได้รับสมุดตรวจสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ได้ฐานข้อมูลด้านสุขภาพของพระสงฆ์ หากพบว่าพระสงฆ์อาพาธสามารถเข้าบริการด้านการแพทย์ได้ นอกจากนี้ ทำให้ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์มีความรู้ความเข้าใจในการอุปัฏฐากพระสงฆ์อาพาธตามหลักพระธรรมวินัย

          สำหรับการจัดโครงการถวายการตรวจสุขภาพพระสงฆ์ที่เอื้อต่อพระธรรมวินัย เขตสุขภาพที่ 9 จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ มีโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 250 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศูนย์ 1 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป 1 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 21 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 227 แห่ง ขณะที่มีวัด 1,093 วัด มีพระสงฆ์ สามเณร 7,379 รูป ภายในงานได้จัดบริการตรวจสุขภาพคัดกรองเบื้องต้น ตรวจเลือด เอกซเรย์ทรวงอก ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจตา ทั้งต้อหิน ต้อกระจก ค่าสายตา ตรวจทางทันตกรรม เป็นต้น โดยมีพระสงฆ์เข้ารับบริการ 200 รูป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมดูแลสุขภาพพระสงฆ์ได้ด้วยการถวายอาหารพระสงฆ์ที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยการถวายอาหารที่ลดหวาน มัน เค็ม เพื่อป้องกันการอาพาธจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ ... ที่มา สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข